| Registro completo |
| Provedor de dados: |
Thai Agricultural
|
| País: |
Thailand
|
| Título: |
บทบาทของหินฟอสเฟท (Phosphate Rock, PR) ในการผลิตข้าวโพดแบบอินทรีย์
Role of phosphate rock (PR) in organic-corn production
|
| Autores: |
Sukum Chotechaungmanirat
Paweena Thongluang
|
| Data: |
2012-05-08
|
| Ano: |
2010
|
| Palavras-chave: |
Organic-corn production
Phosphate rock
ข้าวโพด
ข้าวโพดอินทรีย์
หินฟอสเฟท
อัตราการใช้
การเจริญเติบโต
ความสูง
น้ำหนักแห้ง
ฟอสฟอรัส
การดูดใช้ธาตุอาหาร
คุณสมบัติทางเคมีและกายภาพของดิน
|
| Resumo: |
Growth of corn responded markedly to application of phosphorus from both phosphate rock and triple super phosphate. It was found that corn with application of 6 and 30 gm P/pot of PR had average plant height (at 30 and 50 days after planting) of 77 percent and 82 percent, compared to the growth of corn with 6 gm P/pot of TSP. And increasing the rate of phosphorus from PR to 60 gm P/pot resulted of 92 percent in growth, compared to that from application of triple super phosphate. No application of phosphorus resulted in only 69 percent of the growth of corn, compared to that from application of triple super phosphate. Similarly, the application of phosphorus from phosphate rock (PR) at the rates of 0, 6, 30 and 60 gm P/pot resulted 29 percent, 38 percent, 64 percent and 89 percent growth in dry weight growths of corn, compared to that of triple super phosphate. The study also revealed that a considerable portion of residual phosphorus remained in the soil due to use of phosphate rock. Moreover, discussion on use of legumes as green manure in the cropping in order to increase availability of phosphorus from phosphate rock was included.
4 tables
การเจริญเติบโตของข้าวโพดตอบสนองอย่างเด่นชัด เมื่อได้รับธาตุฟอสฟอรัสทั้งจากหินฟอสเฟต และจากปุ๋ยเคมีทริปเบิลซูเปอร์ฟอสเฟต แต่ความเป็นประโยชน์ของธาตุฟอสฟอรัสจากหินฟอสเฟท ต่อการเจริญเติบโตของข้าวโพด มีน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับธาตุฟอสฟอรัสจากปุ๋ยเคมีทริปเบิลซูเปอร์ฟอสเฟท ดังจะเห็นได้จากการเจริญเติบโตของข้าวโพดด้านความสูง (ที่อายุ 30 วัน และ 50 วัน) มีการตอบสนองโดยเฉลี่ย ต่อธาตุฟอสฟอรัสจากหินฟอสเฟทที่อัตรา 6 และ 30 gm P/pot เท่ากับ 77 เปอร์เซ็นต์ และ 82 เปอร์เซ็นต์ ของความสูงของข้าวโพดที่ได้รับธาตุฟอสฟอรัส จากปุ๋ยเคมีทริปเบิลซูเปอร์ฟอสเฟตในอัตรา 6 gm P/pot และเมื่อเพิ่มอัตราธาตุฟอสฟอรัสของหินฟอสเฟทเป็น 60 gm P/pot จึงจะทำให้การเจริญเติบโตเฉลี่ยด้านความสูงของข้าวโพดเพิ่มเป็น 92เปอร์เซ็นต์ ของข้าวโพดเมื่อได้รับธาตุฟอสฟอรัสจากปุ๋ยเคมีทริปเบิลซูเปอร์ฟอสเฟต ส่วนตำรับที่ไม่ได้รับธาตุฟอสฟอรัสเลย ข้าวโพดจะมีการเจริญเติบโตเฉลี่ยด้านความสูงเพียง 69 เปอร์เซ็นต์ ในทำนองเดียวกันการเจริญเติบโตเฉลี่ยด้านน้ำหนักแห้งของข้าวโพด การได้รับธาตุฟอสฟอรัสจากหินฟอสเฟต ที่อัตรา 0, 6, 30 และ 60 gm P/pot เมื่อเปรียบเทียบกับการได้รับธาตุฟอสฟอรัสในอัตรา 6 gm P/pot หลังจากปุ๋ยเคมีทริปเบิลซูเปอร์ฟอสเฟต มีปริมาณการเจริญเติบโตเท่ากับ 29, 38, 64 และ 89 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ การศึกษายังพบว่า มีธาตุฟอสฟอรัสปริมาณมากตกค้างอยู่ในดิน หลังจากการใช้หินฟอสเฟท นอกจากนั้น ในบทความนี้ได้กล่าวถึงการใช้พืชตระกูลถั่วเป็นปุ๋ยพืชสด เพื่อเพิ่มการใช้ประโยชน์ธาตุฟอสฟอรัสจากหินฟอสเฟท
|
| Idioma: |
Thailandês
|
| Identificador: |
Proceedings of the 4th Workshop of Corn and Sorghum Research Project of Kasetsart University: Corn and sorghum yield increasing to improve the quality of life and environmental sustainability, Bangkok (Thailand), p. 139-148
http://anchan.lib.ku.ac.th/agnet/handle/001/4669
การประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการวิจัยแม่บทข้าวโพดและข้าวฟ่าง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครั้งที่ 4: เรื่องการเพิ่มผลผลิตข้าวโพดและข้าวฟ่างเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน, กรุงเทพฯ, หน้า 139-148
|
|
